“สองล้อ” เดินหน้าแผนจัดจักรยานถนนเอเชีย พร้อมการประชุมใหญ่สามัญของ ACC ปีหน้า วาระสำคัญเลือกตั้งประธานสหพันธ์ฯ คนใหม่

 สมาคมกีฬาจักรยานฯ ไม่รอช้า เดินหน้าแผนงานการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์เอเชีย 2025 ระหว่างวันที่7-16 ก.พ.68 โดยใช้เส้นทางสนามจักรยานสราญจิตมงคลสุข รอบบึงสีไฟ จ.พิจิตร และเส้นทางจาก จ.พิษณุโลก ไปยังบึงสีไฟ และบ้านรักไทย พร้อมกันนี้สมาคมกีฬาจักรยานฯ จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมใหญ่สามัญของสมาพันธ์จักรยานแห่งเอเชีย หรือ ACC Congress ในวันที่ 5 ก.พ.68 ที่โรงแรมโกลเด้นทิวลิป ซอฟเฟอรีน ซึ่งมีวาระสำคัญคือการเลือกตั้งประธานและกรรมการบริหารชุดใหม่ที่กำลังจะหมดวาระลง โดยมี มร.เดวิด แลปปาร์เตียน ประธานสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) เดินทางมาร่วมเป็นเกียรติในการประชุม และเป็นสักขีพยานในการแข่งขันจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์เอเชีย 2025 อีกด้วย

 “เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า สมาคมกีฬาจักรยานฯ เริ่มเดินหน้าแผนงานการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์เอเชีย 2025 หรือ Asian Road Championships 2025 ระหว่างวันที่ 7-16 กุมภาพันธ์ 2568 ที่จังหวัดพิจิตร และพิษณุโลก พร้อมการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของสมาพันธ์จักรยานแห่งเอเชีย หรือ ACC Congress ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 ที่โรงแรมโกลเด้นทิวลิป ซอฟเฟอรีน พระราม 9 ซึ่งมีวาระสำคัญคือการเลือกตั้งประธานและกรรมการบริหารชุดใหม่เข้าบริหารองค์กรในอีก 4 ปีถัดไป

 พลเอกเดชา กล่าวว่า สำหรับการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของเอซีซี คาดว่าจะมีผู้แทนจากสหพันธ์จักรยานแห่งชาติของแต่ละประเทศในทวีปเอเชียไม่น้อยกว่า 40 ชาติเข้าร่วมการประชุม เนื่องจากการประชุม ACC Congress 2025 จะมีวาระสำคัญคือการเลือกตั้งประธานคนใหม่ หลังจากที่ มร.โอซามะห์ อัล ชาฟาห์ ประธานคนปัจจุบันชาวสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์นั่งเก้าอี้ประธานมาแล้ว 2 สมัย เป็นเวลา 8 ปีเต็มต้องอำลาตำแหน่ง และก่อนหน้านั้นจะมีการประชุมคณะกรรมการบริหาร ACC Management Committee ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งทั้งการประชุมคณะกรรมการบริหารและการประชุมใหญ่สามัญเอซีซี สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ได้ส่งหนังสือเชิญ มร.เดวิด แลปปาร์เตียน ประธานสหพันธ์จักรยานนานาชาติ หรือ ยูซีไอ เดินทางมาร่วมเป็นเกียรติ และก็ได้รับการตอบรับว่าจะเดินทางมาร่วมการประชุมตลอดจนร่วมเป็นสักขีพยานในการแข่งขันจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์เอเชีย 2025 อีกด้วย

 พลเอกเดชา กล่าวอีกว่า สำหรับวาระการเลือกตั้งในตำแหน่งประธานเอซีซี ขณะนี้มีแคนดิเดตเปิดตัวลงเลือกตั้งแน่นอนแล้ว 2 คนคือ ดาโต๊ะ อมาจิต ซิงห์ กิล ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งมาเลเซีย และกรรมการบริหารยูซีไอ กับ มร.ราจาซัปตา ออคโตฮารี ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกอินโดนีเซีย คาดว่าก่อนหน้าที่จะปิดการรับสมัครในเดือนธันวาคม 2567 ก็อาจจะมีแคนดิเดตรายอื่นลงสมัครเพิ่มเติม แต่ตัวเต็งก็ยังน่าจะยังคงเป็นดาโต๊ะ อมาจิต ซิงห์ กิล กับ มร.ราจาซัปตา ออโตฮารี ที่ต่างก็มีเสียงสนับสนุนใกล้เคียงกัน 

 “ส่วนการสนับสนุนผู้สมัครรายใดนั้น สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ก็คงจะต้องพิจารณากันอย่างรอบด้านก่อนที่จะตัดสินใจ โดยอาศัยหลักการเลือกคนที่ทำงานเพื่อผลประโยชน์และพัฒนากีฬาจักรยานของทวีปเอเชียมากที่สุด ส่วนตัวผมเองนั้นก็ยังคงจะลงสมัครในตำแหน่งกรรมการบริหาร หรือ Management Committee ซึ่งก็คาดว่าน่าจะได้รับเสียงสนับสนุนมากเพียงพอจากพันธมิตรชาติต่าง ๆ ที่เราทำงานร่วมกันมาโดยตลอด” พลเอกเดชา กล่าว

 “เสธ.หมึก” กล่าวต่อไปว่า สำหรับการแข่งขันจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์เอเชีย 2025 สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ได้จัดเตรียมเส้นทางการแข่งขันที่กำหนดระหว่างวันที่ 7-16 กุมภาพันธ์ 2568 เอาไว้แล้ว โดยจะจัดการแข่งขันในทุกรุ่นอายุตามที่ยูซีไอกำหนด ประกอบด้วย รุ่นเยาวชนชาย. เยาวชนหญิง, ประชาชนชาย, ประชาชนหญิง และรุ่นมาสเตอร์ชาย-หญิง ที่จะเริ่มจัดช่วงอายุตั้งแต่อายุ 30 ปีขึ้นไป โดยการแข่งขันไทม์ไทรอัลทุกรุ่น จะใช้เส้นทางสนามจักรยานสราญจิตมงคลสุข รอบบึงสีไฟ จังหวัดพิจิตร ระยะทาง 10.28 กม. ต่อรอบ ส่วนการแข่งขันโรดเรซรุ่นเยาวชนหญิง, มาสเตอร์ชาย-หญิง ทุกรุ่นอายุ ก็จะใช้เส้นทางสนามจักรยานสราญจิตมงคลสุขเช่นเดียวกัน ขณะที่รุ่นประชาชนหญิงและเยาวชนชาย จะใช้เส้นทางจากจังหวัดพิษณุโลกไปเข้าเส้นชัยที่บึงสีไฟ ส่วนรุ่นประชาชนชาย ไฮไลต์ของการแข่งขันจะใช้เส้นทางจากจังหวัดพิษณุโลกไปยังบึงสีไฟ จากนั้นไปเข้าเส้นชัยที่บ้านรักไทย จังหวัดพิษณุโลก

 “ทางสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ วางแผนไว้ว่าในฐานะเจ้าภาพ เราจะส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันทุกรุ่น โดยจะเก็บตัวฝึกซ้อมคู่ขนานกันไปกับการเก็บตัวฝึกซ้อมนักกีฬาทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ทางการกีฬาแห่งประเทศไทย ประมาณการไว้ว่าจะสามารถเดินหน้าเก็บตัวฝึกซ้อมได้ในเดือนธันวาคม 2567 หรืออย่างช้าต้นเดือนมกราคม 2568 ” พลเอกเดชา กล่าวในตอนท้าย.